วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม 2022
วันฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า
บทอ่านจากหนังสือบุตรสิรา(บสร 3:3-7, 14-17ก)
บุตรที่ยำเกรงบิดาก็ชดเชยบาปของตน
บุตรที่ให้เกียรติมารดาก็เหมือนกับสะสมทรัพย์สมบัติไว้
ผู้ที่ยำเกรงบิดาก็มีความสุขจากบุตรของตน
เมื่อเขาอธิษฐานภาวนา พระเจ้าก็จะทรงฟังเขา
บุตรที่ให้เกียรติบิดาจะมีอายุยืน
บุตรที่เชื่อฟังองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทำให้มารดาชื่นใจ
ผู้ยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าย่อมให้เกียรติแก่บิดา
เขารับใช้บิดามารดาเหมือนรับใช้เจ้านาย
เพราะพระเจ้าจะไม่ทรงลืมความเมตตาของท่านต่อบิดา
พระองค์จะทรงนับว่าความเมตตานั้นเป็นการใช้โทษบาปของท่าน
เมื่อท่านตกทุกข์ได้ยาก พระเจ้าจะทรงระลึกถึงท่าน
บาปของท่านจะสลายไปดุจน้ำแข็งละลายเมื่อถูกแสงแดด
บุตรที่ละทิ้งบิดาก็เหมือนผู้กล่าวดูหมิ่นพระเจ้า
บุตรที่ทำให้มารดาเสียใจ จะถูกองค์พระผู้เป็นเจ้าสาปแช่ง
ลูกเอ๋ย ไม่ว่าท่านจะทำสิ่งใด จงทำด้วยความถ่อมตนเถิด
บทอ่านจากจดหมายนักบุญเปาโลอัครสาวกถึงชาวโคโลสี (คส 3:12-21)
พี่น้อง ในฐานะที่ท่านเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรร เป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่รักของพระองค์ จงเห็นอกเห็นใจกัน จงมีความใจดี ความถ่อมตน ความอ่อนโยน และความพากเพียรอดทนเป็นเสมือนเครื่องประดับตน จงผ่อนหนักผ่อนเบา หากมีเรื่องผิดใจก็จงยกโทษกัน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยความผิดของท่านอย่างไร ท่านก็จงให้อภัยแก่เขาอย่างนั้นเถิด แต่เหนือสิ่งใด จงมีความรัก ซึ่งรวมเราไว้เป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์ ขอให้สันติสุขของพระคริสตเจ้าครอบครองดวงใจของท่าน พระเจ้าทรงเรียกท่านทั้งหลายให้รวมเป็นกายเดียวกัน ก็เพื่อจะได้บรรลุถึงสันติสุขนี้เอง จงระลึกถึงพระคุณนี้เถิด
ขอพระวาจาของพระคริสตเจ้าสถิตอยู่ในท่านอย่างเต็มเปี่ยม จงสอนและตักเตือนกันด้วยปรีชาญาณ จงขอบพระคุณพระเจ้าโดยการขับร้องบทเพลงสดุดี เพลงสรรเสริญ และบทเพลงศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ จากใจจริง ท่านจะพูดเรื่องใดหรือ ทำกิจการใด ก็จงพูดจงทำในพระนามของพระเยซู องค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นการขอบพระคุณพระเจ้าพระบิดาโดยทางพระองค์เถิด
ภรรยา จงอยู่ใต้อำนาจของสามีตามสมควรในองค์พระผู้เป็นเจ้า สามีจงรักภรรยาและอย่าทำให้นางรู้สึกขมขื่น บุตร จงเชื่อฟังบิดามารดาในทุกสิ่ง เพราะการกระทำเช่นนี้เป็นที่พอพระทัยองค์พระผู้เป็นเจ้า บิดาก็จงอย่าขัดใจบุตรเกินไปจนเขาท้อแท้หมดกำลังใจ
บทอ่านจากพระวรสารตามคำบอกเล่าของนักบุญมัทธิว (มธ 2:13-15, 19-23)
เมื่อบรรดาโหราจารย์กลับไปแล้ว ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาเข้าฝันโยเซฟ กล่าวว่า “จงลุกขึ้น พาพระกุมารและพระมารดาหนีไปประเทศอียิปต์ และจงอยู่ที่นั่นจนกว่าเราจะบอกท่าน เพราะกษัตริย์เฮโรดกำลังสืบหาพระกุมาร เพื่อจะประหารชีวิต”
โยเซฟจึงลุกขึ้นพาพระกุมารและพระมารดาออกเดินทางไปประเทศอียิปต์ในคืนนั้น และอยู่ที่นั่นจนกระทั่งกษัตริย์เฮโรดสิ้นพระชนม์ ทั้งนี้เพื่อให้พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ตรัสทางประกาศกเป็นความจริงว่า “เราเรียกบุตรของเรามาจากอียิปต์”
หลังจากกษัตริย์เฮโรดสิ้นพระชนม์ ทูตสวรรค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาเข้าฝันโยเซฟในอียิปต์ กล่าวว่า “จงลุกขึ้น พาพระกุมารและพระมารดากลับไปแผ่นดินอิสราเอล เพราะผู้ที่ต้องการฆ่าพระกุมารตายแล้ว” โยเซฟจึงลุกขึ้นพาพระกุมารและพระมารดากลับไปแผ่นดินอิสราเอล แต่เมื่อรู้ว่าอารเคลาอัสขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ในแคว้นยูเดียสืบต่อจากกษัตริย์เฮโรดพระบิดา โยเซฟก็กลัวที่จะไปที่นั่น และเมื่อพระเจ้าทรงเตือนเขาในความฝัน เขาจึงกลับไปยังแคว้นกาลิลี ไปอาศัยอยู่ในเมืองหนึ่งชื่อนาซาเร็ธ ทั้งนี้ เพื่อให้พระดำรัสที่ตรัสทางประกาศกเป็นความจริงว่า “พระองค์จะได้รับพระนามว่าชาวนาซาเร็ธ”