"เราประกาศให้ท่านรู้ถึงสิ่งที่เราได้เห็น" (1ยน. 1:3)

การกลับใจภาคแรกa

3. 1ถ้าชายคนหนึ่งหย่าร้างภรรยาของตน

นางไปจากเขา

ไปเป็นภรรยาของชายอีกคนหนึ่ง

ถ้าเขาจะกลับไปหานางอีกb

แผ่นดินก็จะมีมลทินไปทั่ว

ท่านได้เป็นชู้กับคนรักหลายคน

แล้วยังจะกลับมาหาเราอีกหรือ –

พระยาห์เวห์ตรัส

2จงแหงนหน้าขึ้นมองเนินสูง

และจงดูว่ามีที่ใดบ้างที่ท่านไม่ได้เล่นชู้

ท่านนั่งคอยคู่รักอยู่ริมทาง

เหมือนชาวอาหรับดักซุ่มในถิ่นทุรกันดาร

ท่านทำให้แผ่นดินเป็นมลทิน

ด้วยการเล่นชู้และความชั่วของท่าน

3ดังนั้นฝนจึงถูกระงับ

และฝนชุกปลายฤดูก็ไม่ตก

ท่านมีหน้าด้านเหมือนหญิงแพศยา

ไม่ยอมอับอายc

4ตั้งแต่นี้ไปอย่าเรียกเราอีกเลยว่า “พระบิดาของข้าพเจ้า

พระองค์ทรงเป็นที่รักของข้าพเจ้าตั้งแต่วัยสาว

5พระองค์จะทรงพระพิโรธตลอดไปหรือ

จะกริ้วอยู่จนถึงที่สุดหรือ”

ดูซิ ท่านพูดเช่นนี้

แต่ก็ยังทำชั่วทุกอย่างที่ทำได้ต่อไป

ประกาศกเตือนอาณาจักรเหนือให้กลับใจc

          6พระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าในรัชสมัยของกษัตริย์โยสิยาห์ว่า “ท่านเห็นไหมว่าอิสราเอลที่เป็นกบฏได้ทำอะไร เขาขึ้นไปบนภูเขาสูงทุกแห่ง และใต้ต้นไม้เขียวสดทุกต้น เพื่อไปเล่นชู้ 7เราคิดว่า ‘เมื่อเขาทำทุกสิ่งเหล่านี้หมดแล้ว เขาจะกลับมาหาเรา’ แต่เขาก็ไม่ได้กลับมา และยูดาห์ซึ่งเป็นเสมือนน้องสาวที่ไม่ซื่อสัตย์ก็เห็นเช่นนี้ 8และเห็นdว่าเราได้ขับไล่อิสราเอลหลายครั้งที่เป็นกบฏเพราะการเล่นชู้ พร้อมกับมอบเอกสารการหย่าร้างให้ด้วย แต่ยูดาห์น้องสาวที่ไม่ซื่อสัตย์ก็ไม่กลัวเลย กลับไปเล่นชู้ด้วย 9ทำให้แผ่นดินมีมลทินเพราะการเล่นชู้อย่างหน้าด้านเช่นนี้ เขาเล่นชู้กับรูปเคารพที่เป็นก้อนหินและท่อนไม้ 10แม้เขาทำการเหล่านี้ทั้งหมดแล้ว ยูดาห์น้องสาวที่ทรยศของเขาก็มิได้หันกลับมาหาเราสุดจิตใจ แต่แสร้งทำเท่านั้น” – พระยาห์เวห์ตรัส

          11แล้วพระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “อิสราเอลที่เป็นกบฏยังแสดงตนเป็นผู้ชอบธรรมมากกว่ายูดาห์ที่ไม่ซื่อสัตย์ 12จงไปประกาศถ้อยคำเหล่านี้ทางเหนือ พูดว่า

          ‘พระยาห์เวห์ตรัสว่า

อิสราเอลที่เป็นกบฏเอ๋ย จงกลับมาเถิด

เราจะไม่แสดงใบหน้าโกรธเกรี้ยวต่อท่าน

เพราะเรามีเมตตากรุณา –

พระยาห์เวห์ตรัส –

เราจะไม่เก็บความโกรธไว้ตลอดไป

13ถ้าท่านเพียงแต่ยอมรับความผิดว่า

ได้เป็นกบฏต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน

ปันใจให้เทพเจ้าอื่นeใต้ต้นไม้เขียวสดทุกต้นอยู่เสมอ

และไม่ได้ฟังเสียงของเรา –

พระยาห์เวห์ตรัส”

ศิโยนในสมัยพระเมสสิยาห์f

          14พระยาห์เวห์ตรัสว่า “ลูกหลานที่ไม่ซื่อสัตย์เอ๋ย จงกลับมาเถิด เพราะเราเป็นเจ้านายของท่าน เราจะนำท่านกลับมายังศิโยน จะนำคนหนึ่งจากแต่ละเมือง และสองคนจากแต่ละครอบครัว 15เราจะให้ผู้เลี้ยงที่ทำตามใจเราแก่ท่าน เขาจะเลี้ยงดูท่านด้วยความรู้และความเข้าใจ 16พระยาห์เวห์ตรัส – เมื่อท่านทั้งหลายจะทวีจำนวนในแผ่นดิน เวลานั้น เขาทั้งหลายจะไม่พูดถึง ‘หีบพระสัญญาของพระยาห์เวห์’ อีกต่อไป จะไม่มีใครคิดถึง ไม่มีใครจดจำ ไม่มีใครรู้สึกเสียดาย ไม่มีใครทำหีบพันธสัญญาขึ้นใหม่เลยg 17เวลานั้นเขาจะเรียกกรุงเยรูซาเล็มว่าเป็นพระบัลลังก์ของพระยาห์เวห์ นานาชาติจะรวมกันเข้ามาที่นั่น ที่กรุงเยรูซาเล็ม เดชะพระนามพระยาห์เวห์ เขาจะไม่ปฏิบัติตามใจชั่วและดื้อกระด้างอีกต่อไป”

          18“เวลานั้น ลูกหลานของยูดาห์จะเดินไปหาลูกหลานของอิสราเอล เขาทั้งสองจะกลับมาพร้อมกันจากแผ่นดินทางทิศเหนือ มายังแผ่นดินที่เราเคยมอบเป็นมรดกให้แก่บรรพบุรุษของท่าน”h

การกลับใจ - ภาคที่สองi

          19“เราเคยคิดว่า

เราจะตั้งท่านให้เป็นบุตรอย่างไรดี

เราจะให้แผ่นดินที่น่าปรารถนาแก่ท่าน

เป็นมรดกที่งดงามที่สุดของนานาชาติ

เราเคยคิดว่าท่านจะเรียกเราว่า ‘พระบิดาของข้าพเจ้า’

และจะไม่เลิกติดตามเรา

20ลูกหลานของอิสราเอลเอ๋ย

ท่านไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อเรา

เหมือนหญิงที่ไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อคู่รักของตน” –

พระยาห์เวห์ตรัส

21มีผู้ได้ยินเสียงจากที่สูงj

เป็นเสียงร้องไห้และวอนขอของชาวอิสราเอล

เพราะเขาได้ทำให้วิถีทางของตนคดเคี้ยว

เขาได้ลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของตน

22“ลูกหลานที่ไม่ซื่อสัตย์เอ๋ย จงกลับมาเถิด

เราจะรักษาเยียวยาความไม่ซื่อสัตย์ของท่าน

ท่านจะพูดว่า ‘ดูซิ ข้าพเจ้าทั้งหลายมาหาพระองค์แล้ว

เพราะพระองค์ทรงเป็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย

23โดยแท้จริงแล้ว เนินเขาเป็นแต่สิ่งหลอกลวง

ภูเขาก็มีแต่เสียงอึกทึกk

พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย

ทรงเป็นความรอดพ้นของอิสราเอลอย่างแท้จริง’

24ตั้งแต่วัยเยาว์ของข้าพเจ้าทั้งหลาย

ความอับอายlได้กัดกินผลงานของบรรพบุรุษ

ฝูงแพะแกะ ฝูงโค บุตรชายหญิงของข้าพเจ้าทั้งหลาย

25ให้เรานอนลงด้วยความอาย

ให้ความอัปยศปกคลุมเราไว้

เพราะเราได้ทำบาปผิดต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา

ทั้งตัวเราและบรรพบุรุษ

ตั้งแต่วัยเยาว์จนถึงวันนี้

เราไม่ได้ฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา”

3 a ข้อความ 2 ตอน คือ 3:6-13 และ 3:14-18 ทำให้บทประพันธ์ขาดความต่อเนื่อง – บทประพันธ์ (3:1-5) จะดำเนินต่อไปที่ 3:19 – 4:4 *** เมื่อเริ่มข้อ 1 เราละข้อความ “เขาพูดกันว่า” - เหมือนกับในต้นฉบับภาษากรีกและซีเรียค

b ฉธบ 24:1-4 ห้ามมิให้ชายใดแต่งงานอีกกับหญิงที่หย่าร้างกับเขาไปแล้ว ถึงแม้อิสราเอลจะไม่ได้ถูกพระยาห์เวห์ทรงทอดทิ้ง (= หย่าร้าง) แต่ก็มิได้ซื่อสัตย์ต่อพระองค์จนกระทั่งว่าการกลับมาคืนดีกับพระองค์อีกดูเหมือนจะเป็นอัศจรรย์ของพระหรรษทาน – ดูข้อ 19ฯ; 31:23; ฮชย บทที่ 1-3.

 

c ข้อความนี้เขียนไว้ตั้งแต่รัชสมัยของกษัตริย์โยสิยาห์ และต้องจัดอยู่ในช่วงเวลาหลังจากการปฏิรูปทางศาสนาเมื่อปี 622 ก.ค.ศ. ข้อความเหล่านี้เป็นพยานยืนยันว่าประกาศกเยเรมีย์มีความหวังอย่างมั่นใจอยู่ตลอดเวลาว่าชาวอิสราเอลของอาณาจักรเหนือจะกลับใจและเข้ามารวมกับอาณาจักรยูดาห์อีก – เทียบ 30:1 – 31:32 – ดูเหมือนว่าข้อความตอนนี้เป็นแรงบันดาลใจสำหรับเรื่องราวใน อสค บทที่ 23.

d “เห็น” (บุรุษที่สาม) – ตามสำเนาโบราณภาษาฮีบรูฉบับหนึ่ง  สำเนาโบราณภาษากรีกและซีเรียคบางฉบับ – ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “เราเห็น” (บุรุษที่หนึ่ง)

e “เทพเจ้าอื่น” – แปลตามตัวอักษรว่า “คนแปลกหน้า” – หมายถึงรูปเคารพต่างๆ - เป็นการกล่าวพาดพิงถึงการปฏิบัติศาสนกิจแบบผสมผเสปนเปในรัชสมัยของกษัตริย์มนัสเสห์และอาโมน

f ข้อความตอนนี้น่าจะเขียนขึ้นหลังเหตุการณ์ในปี 587 ก.ค.ศ. เมื่อกรุงเยรูซาเล็มถูกทำลายและชาวยูดาห์ถูกเนรเทศไปที่กรุงบาบิโลนแล้ว

g ขณะนั้นหีบพันธสัญญาได้ถูกชาวเคลเดียทำลายแล้วพร้อมกับพระวิหารในปี 587 ก.ค.ศ. กรุงเยรูซาเล็มเองจะต้องเป็น “พระบัลลังก์ของพระยาห์เวห์” เหมือนกับที่หีบพันธสัญญาเคยเป็น (อพย 25:10 เชิงอรรถ c; 2 ซมอ 6:7)

h บรรดาประกาศกกล่าวพยากรณ์ถึงยุคของพระเมสสิยาห์ ว่าประชากรอิสราเอลจะเป็นอาณาจักรที่รวมเป็นหนึ่งเดียวเหมือนในรัชสมัยของกษัตริย์ดาวิดและซาโลมอน 23:5-6; 31:1; อสย 11:13-14; อสค 37:15-27; ฮชย 2:2; มคา 2:12; ศคย 9:10.

i ข้อความตอนนี้ต่อจากข้อ 5 – สิ่งที่ธรรมบัญญัติไม่อนุญาตให้ทำ (คือการกลับไปคืนดีกับภรรยาที่หย่าร้างกันไปแล้ว) ในข้อ 1 พระหรรษทาน (คือความรักและพระกรุณาของพระเจ้า) ทำให้เกิดขึ้นได้

j คำพูดประโยคนี้ตรงข้ามกับคำพูดใน 3:2.

k แปลตามต้นฉบับภาษากรีกและซีเรียค – ต้นฉบับภาษาฮีบรูไม่สมบูรณ์ – แปลตามตัวอักษรว่า “เพราะความหลอกลวงมาจากเนินเขา เสียงอึกทึกของภูเขา” (?)

l “ความอับอาย” หมายถึง “พระบาอัล” – เทียบ 11:13 – ข้อความในบรรทัดต่อมาเป็นการกล่าวถึงเครื่องบูชาที่ถวายต่อพระบาอัล

เช้าวันใหม่ใส่ใจพระวาจา

Lectio Divina-Daily 2022

Sinapis เมล็ดพันธุ์แห่งพระวาจา

เช้าวันเสาร์เราคิดถึงพระวาจา

Video อบรมพระคัมภีร์

ความรู้พื้นฐานพระคัมภีร์และหนังสือปฐมกาล

หนังสืออพยพและเลวีนิติ

หนังสือกันดารวิถีและเฉลยธรรมบัญญัติ

หนังสือโยชูวา ผู้วินิจฉัยและนางรูธ

หนังสือซามูแอล ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศ์กษัตริย์ ฉบับที่ 1 และ ฉบับที่ 2

หนังสือพงศาวดาร เอสราและเนหะมีย์

หนังสือโทบิต ยูดิธ เอสเธอร์และมัคคาบี 1 และ 2

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับประกาศกและประกาศกอาโมส

หนังสือประกาศกโฮเชยาและมีคาห์

หนังสือประกาศกอิสยาห์

หนังสือประกาศกโยนาห์และประกาศกเศฟันยาห์

หนังสือประกาศกนาฮูมและฮาบากุก

หนังสือประกาศกเยเรมีห์-เพลงคร่ำครวญ-บารุค

หนังสือประกาศกเอเสเคียลและดาเนียล

บทเทศน์บนภูเขา มธ. 5-7

พระวรสารนักบุญมัทธิว 10,13,18

พระวรสารนักบุญมาระโก

หนังสือกิจการอัครสาวก