การกลับใจ – ภาคแรกa
3. 1ถ้าชายคนหนึ่งหย่าร้างภรรยาของตน
นางไปจากเขา
ไปเป็นภรรยาของชายอีกคนหนึ่ง
ถ้าเขาจะกลับไปหานางอีกb
แผ่นดินก็จะมีมลทินไปทั่ว
ท่านได้เป็นชู้กับคนรักหลายคน
แล้วยังจะกลับมาหาเราอีกหรือ –
พระยาห์เวห์ตรัส
2จงแหงนหน้าขึ้นมองเนินสูง
และจงดูว่ามีที่ใดบ้างที่ท่านไม่ได้เล่นชู้
ท่านนั่งคอยคู่รักอยู่ริมทาง
เหมือนชาวอาหรับดักซุ่มในถิ่นทุรกันดาร
ท่านทำให้แผ่นดินเป็นมลทิน
ด้วยการเล่นชู้และความชั่วของท่าน
3ดังนั้นฝนจึงถูกระงับ
และฝนชุกปลายฤดูก็ไม่ตก
ท่านมีหน้าด้านเหมือนหญิงแพศยา
ไม่ยอมอับอายc
4ตั้งแต่นี้ไปอย่าเรียกเราอีกเลยว่า “พระบิดาของข้าพเจ้า
พระองค์ทรงเป็นที่รักของข้าพเจ้าตั้งแต่วัยสาว
5พระองค์จะทรงพระพิโรธตลอดไปหรือ
จะกริ้วอยู่จนถึงที่สุดหรือ”
ดูซิ ท่านพูดเช่นนี้
แต่ก็ยังทำชั่วทุกอย่างที่ทำได้ต่อไป
ประกาศกเตือนอาณาจักรเหนือให้กลับใจc
6พระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าในรัชสมัยของกษัตริย์โยสิยาห์ว่า “ท่านเห็นไหมว่าอิสราเอลที่เป็นกบฏได้ทำอะไร เขาขึ้นไปบนภูเขาสูงทุกแห่ง และใต้ต้นไม้เขียวสดทุกต้น เพื่อไปเล่นชู้ 7เราคิดว่า ‘เมื่อเขาทำทุกสิ่งเหล่านี้หมดแล้ว เขาจะกลับมาหาเรา’ แต่เขาก็ไม่ได้กลับมา และยูดาห์ซึ่งเป็นเสมือนน้องสาวที่ไม่ซื่อสัตย์ก็เห็นเช่นนี้ 8และเห็นdว่าเราได้ขับไล่อิสราเอลหลายครั้งที่เป็นกบฏเพราะการเล่นชู้ พร้อมกับมอบเอกสารการหย่าร้างให้ด้วย แต่ยูดาห์น้องสาวที่ไม่ซื่อสัตย์ก็ไม่กลัวเลย กลับไปเล่นชู้ด้วย 9ทำให้แผ่นดินมีมลทินเพราะการเล่นชู้อย่างหน้าด้านเช่นนี้ เขาเล่นชู้กับรูปเคารพที่เป็นก้อนหินและท่อนไม้ 10แม้เขาทำการเหล่านี้ทั้งหมดแล้ว ยูดาห์น้องสาวที่ทรยศของเขาก็มิได้หันกลับมาหาเราสุดจิตใจ แต่แสร้งทำเท่านั้น” – พระยาห์เวห์ตรัส
11แล้วพระยาห์เวห์ตรัสกับข้าพเจ้าว่า “อิสราเอลที่เป็นกบฏยังแสดงตนเป็นผู้ชอบธรรมมากกว่ายูดาห์ที่ไม่ซื่อสัตย์ 12จงไปประกาศถ้อยคำเหล่านี้ทางเหนือ พูดว่า
‘พระยาห์เวห์ตรัสว่า
อิสราเอลที่เป็นกบฏเอ๋ย จงกลับมาเถิด
เราจะไม่แสดงใบหน้าโกรธเกรี้ยวต่อท่าน
เพราะเรามีเมตตากรุณา –
พระยาห์เวห์ตรัส –
เราจะไม่เก็บความโกรธไว้ตลอดไป
13ถ้าท่านเพียงแต่ยอมรับความผิดว่า
ได้เป็นกบฏต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน
ปันใจให้เทพเจ้าอื่นeใต้ต้นไม้เขียวสดทุกต้นอยู่เสมอ
และไม่ได้ฟังเสียงของเรา –
พระยาห์เวห์ตรัส”
ศิโยนในสมัยพระเมสสิยาห์f
14พระยาห์เวห์ตรัสว่า “ลูกหลานที่ไม่ซื่อสัตย์เอ๋ย จงกลับมาเถิด เพราะเราเป็นเจ้านายของท่าน เราจะนำท่านกลับมายังศิโยน จะนำคนหนึ่งจากแต่ละเมือง และสองคนจากแต่ละครอบครัว 15เราจะให้ผู้เลี้ยงที่ทำตามใจเราแก่ท่าน เขาจะเลี้ยงดูท่านด้วยความรู้และความเข้าใจ 16พระยาห์เวห์ตรัส – เมื่อท่านทั้งหลายจะทวีจำนวนในแผ่นดิน เวลานั้น เขาทั้งหลายจะไม่พูดถึง ‘หีบพระสัญญาของพระยาห์เวห์’ อีกต่อไป จะไม่มีใครคิดถึง ไม่มีใครจดจำ ไม่มีใครรู้สึกเสียดาย ไม่มีใครทำหีบพันธสัญญาขึ้นใหม่เลยg 17เวลานั้นเขาจะเรียกกรุงเยรูซาเล็มว่าเป็นพระบัลลังก์ของพระยาห์เวห์ นานาชาติจะรวมกันเข้ามาที่นั่น ที่กรุงเยรูซาเล็ม เดชะพระนามพระยาห์เวห์ เขาจะไม่ปฏิบัติตามใจชั่วและดื้อกระด้างอีกต่อไป”
18“เวลานั้น ลูกหลานของยูดาห์จะเดินไปหาลูกหลานของอิสราเอล เขาทั้งสองจะกลับมาพร้อมกันจากแผ่นดินทางทิศเหนือ มายังแผ่นดินที่เราเคยมอบเป็นมรดกให้แก่บรรพบุรุษของท่าน”h
การกลับใจ - ภาคที่สองi
19“เราเคยคิดว่า
เราจะตั้งท่านให้เป็นบุตรอย่างไรดี
เราจะให้แผ่นดินที่น่าปรารถนาแก่ท่าน
เป็นมรดกที่งดงามที่สุดของนานาชาติ
เราเคยคิดว่าท่านจะเรียกเราว่า ‘พระบิดาของข้าพเจ้า’
และจะไม่เลิกติดตามเรา
20ลูกหลานของอิสราเอลเอ๋ย
ท่านไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อเรา
เหมือนหญิงที่ไม่ได้ซื่อสัตย์ต่อคู่รักของตน” –
พระยาห์เวห์ตรัส
21มีผู้ได้ยินเสียงจากที่สูงj
เป็นเสียงร้องไห้และวอนขอของชาวอิสราเอล
เพราะเขาได้ทำให้วิถีทางของตนคดเคี้ยว
เขาได้ลืมพระยาห์เวห์พระเจ้าของตน
22“ลูกหลานที่ไม่ซื่อสัตย์เอ๋ย จงกลับมาเถิด
เราจะรักษาเยียวยาความไม่ซื่อสัตย์ของท่าน
ท่านจะพูดว่า ‘ดูซิ ข้าพเจ้าทั้งหลายมาหาพระองค์แล้ว
เพราะพระองค์ทรงเป็นพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย
23โดยแท้จริงแล้ว เนินเขาเป็นแต่สิ่งหลอกลวง
ภูเขาก็มีแต่เสียงอึกทึกk
พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย
ทรงเป็นความรอดพ้นของอิสราเอลอย่างแท้จริง’
24ตั้งแต่วัยเยาว์ของข้าพเจ้าทั้งหลาย
ความอับอายlได้กัดกินผลงานของบรรพบุรุษ
ฝูงแพะแกะ ฝูงโค บุตรชายหญิงของข้าพเจ้าทั้งหลาย
25ให้เรานอนลงด้วยความอาย
ให้ความอัปยศปกคลุมเราไว้
เพราะเราได้ทำบาปผิดต่อพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา
ทั้งตัวเราและบรรพบุรุษ
ตั้งแต่วัยเยาว์จนถึงวันนี้
เราไม่ได้ฟังพระสุรเสียงของพระยาห์เวห์พระเจ้าของเรา”
3 a ข้อความ 2 ตอน คือ 3:6-13 และ 3:14-18 ทำให้บทประพันธ์ขาดความต่อเนื่อง – บทประพันธ์ (3:1-5) จะดำเนินต่อไปที่ 3:19 – 4:4 *** เมื่อเริ่มข้อ 1 เราละข้อความ “เขาพูดกันว่า” - เหมือนกับในต้นฉบับภาษากรีกและซีเรียค
b ฉธบ 24:1-4 ห้ามมิให้ชายใดแต่งงานอีกกับหญิงที่หย่าร้างกับเขาไปแล้ว ถึงแม้อิสราเอลจะไม่ได้ถูกพระยาห์เวห์ทรงทอดทิ้ง (= หย่าร้าง) แต่ก็มิได้ซื่อสัตย์ต่อพระองค์จนกระทั่งว่าการกลับมาคืนดีกับพระองค์อีกดูเหมือนจะเป็นอัศจรรย์ของพระหรรษทาน – ดูข้อ 19ฯ; 31:23; ฮชย บทที่ 1-3.
c ข้อความนี้เขียนไว้ตั้งแต่รัชสมัยของกษัตริย์โยสิยาห์ และต้องจัดอยู่ในช่วงเวลาหลังจากการปฏิรูปทางศาสนาเมื่อปี 622 ก.ค.ศ. ข้อความเหล่านี้เป็นพยานยืนยันว่าประกาศกเยเรมีย์มีความหวังอย่างมั่นใจอยู่ตลอดเวลาว่าชาวอิสราเอลของอาณาจักรเหนือจะกลับใจและเข้ามารวมกับอาณาจักรยูดาห์อีก – เทียบ 30:1 – 31:32 – ดูเหมือนว่าข้อความตอนนี้เป็นแรงบันดาลใจสำหรับเรื่องราวใน อสค บทที่ 23.
d “เห็น” (บุรุษที่สาม) – ตามสำเนาโบราณภาษาฮีบรูฉบับหนึ่ง สำเนาโบราณภาษากรีกและซีเรียคบางฉบับ – ต้นฉบับภาษาฮีบรูว่า “เราเห็น” (บุรุษที่หนึ่ง)
e “เทพเจ้าอื่น” – แปลตามตัวอักษรว่า “คนแปลกหน้า” – หมายถึงรูปเคารพต่างๆ - เป็นการกล่าวพาดพิงถึงการปฏิบัติศาสนกิจแบบผสมผเสปนเปในรัชสมัยของกษัตริย์มนัสเสห์และอาโมน
f ข้อความตอนนี้น่าจะเขียนขึ้นหลังเหตุการณ์ในปี 587 ก.ค.ศ. เมื่อกรุงเยรูซาเล็มถูกทำลายและชาวยูดาห์ถูกเนรเทศไปที่กรุงบาบิโลนแล้ว
g ขณะนั้นหีบพันธสัญญาได้ถูกชาวเคลเดียทำลายแล้วพร้อมกับพระวิหารในปี 587 ก.ค.ศ. กรุงเยรูซาเล็มเองจะต้องเป็น “พระบัลลังก์ของพระยาห์เวห์” เหมือนกับที่หีบพันธสัญญาเคยเป็น (อพย 25:10 เชิงอรรถ c; 2 ซมอ 6:7)
h บรรดาประกาศกกล่าวพยากรณ์ถึงยุคของพระเมสสิยาห์ ว่าประชากรอิสราเอลจะเป็นอาณาจักรที่รวมเป็นหนึ่งเดียวเหมือนในรัชสมัยของกษัตริย์ดาวิดและซาโลมอน 23:5-6; 31:1; อสย 11:13-14; อสค 37:15-27; ฮชย 2:2; มคา 2:12; ศคย 9:10.
i ข้อความตอนนี้ต่อจากข้อ 5 – สิ่งที่ธรรมบัญญัติไม่อนุญาตให้ทำ (คือการกลับไปคืนดีกับภรรยาที่หย่าร้างกันไปแล้ว) ในข้อ 1 พระหรรษทาน (คือความรักและพระกรุณาของพระเจ้า) ทำให้เกิดขึ้นได้
j คำพูดประโยคนี้ตรงข้ามกับคำพูดใน 3:2.
k แปลตามต้นฉบับภาษากรีกและซีเรียค – ต้นฉบับภาษาฮีบรูไม่สมบูรณ์ – แปลตามตัวอักษรว่า “เพราะความหลอกลวงมาจากเนินเขา เสียงอึกทึกของภูเขา” (?)
l “ความอับอาย” หมายถึง “พระบาอัล” – เทียบ 11:13 – ข้อความในบรรทัดต่อมาเป็นการกล่าวถึงเครื่องบูชาที่ถวายต่อพระบาอัล